จังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดใหม่ที่แยกออกจากจังหวัดปราจีนบุรี ตั้งอยู่ติดชายแดนประเทศด้านตะวันออก มีแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุหลายแห่ง
และมีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เช่น อุทยานแห่งชาติปางสีดาและอุทยานแห่งชาติตาพระยานอกจากนี้ สระแก้วยังมีประติมากรรมทางธรรมชาติอย่าง "ละลุ" ที่มีลักษณะแปลกตา และที่สุดชายแดนอำเภออรัญประเทศ เป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดสู่อาณาจักรกัมพูชา เชื่อมการคมนาคมและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
ให้เป็นเส้นทางเดียวกัน มีตลาดโรงเกลือที่เต็มไปด้วยของราคาถูกและสินค้ามือสองจากนานาประเทศเพื่อนบ้าน
จังหวัดสระแก้วมีเนื้อที่ประมาณ 7,195.138 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 4,497 ไร่ จัดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 28 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ริม
ชายแดนด้านตะวันออกของประเทศ มีพรมแดนติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชาทางทิศตะวันออก ยาวประมาณ 165 กิโลเมตร สภาพพื้นที่มีทั้งที่ราบ ที่ราบสูง และภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเฉลี่ย 74 เมตร โดยมีทิวเขาบรรทัดอยู่ทางตอนบนของจังหวัด เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำบางปะกง
และเป็นป่าทึบในบริเวณอุทยานแห่งชาติปางสีดา ทางด้านใต้เป็นที่ราบเชิงเขา มีสภาพเป็นป่าโปร่งเสื่อมโทรม ส่วนใหญ่ถูกบุกรุกและแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร ทางด้านตะวันออกเป็นที่ราบถึงที่ราบสูง และมีสภาพเป็นป่าโปร่ง ทางด้านตะวันตกเป็นสันปันน้ำ และพื้นที่ลาดไปทางอำเภอเมืองสระแก้วและอำเภออรัญประเทศ
ต่อเนื่องเข้าเขตราชอาณาจักรกัมพูชา ส่วนตอนกลางมีลักษณะเป็นที่ราบ ได้แก่ พื้นที่ของอำเภอวังน้ำเย็นและอำเภอวังสมบูรณ์จังหวัดสระแก้วตั้งอยู่ติดชายแดนประเทศ
ด้านตะวันออก เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับ 4,000 ปี ตั้งแต่ยุคหินใหม่ โดยมีการค้นพบวัตถุโบราณที่อำเภอเขาฉกรรจ์ อำเภออรัญประเทศ และอำเภอตาพระยา เป็นหลักฐานว่าบริเวณนี้เคยเป็นชุมชนที่มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคเจนละและทวารวดี มีอารยธรรมและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง มีกษัตริย์หรือผู้ครอง
เมืองที่นับถือศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกายและไวษณพนิกาย ดังจะเห็นได้จากโบราณสถานและจารึกรูปอักษรปัลลวะ ที่ปรากฏในบริเวณปราสาทเขาน้อย เขตอรัญประเทศ
ซึ่งถือกันว่าเป็นหลักฐานบันทึกศักราชที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่มจารึกรุ่นแรกที่พบในประเทศไทย สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 1180นอกจากนี้ยังค้นพบหลักฐานความเจริญของ
อารยธรรมระหว่างพุทธศตวรรษที่ 15-16 ในแถบนี้อย่างมากมาย มีทั้งปราสาทอิฐ ปราสาทหิน เตาเผา เครื่องถ้วย และคูเมืองโบราณที่ยังเหลือร่องรอยปรากฏในปัจจุบัน
เช่น ปราสาทสด๊กก๊อกธม ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวสถานของพระศิวะจังหวัดสระแก้วมีที่มาจากชื่อสระน้ำโบราณในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว ซึ่งมีอยู่ 2 สระ โดยในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2523 ในสมัยกรุงธนบุรี ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
ยกทัพไปตีราชอาณาจักรกัมพูชา ได้แวะพักบริเวณสระน้ำทั้ง 2 แห่งนี้ และขนานนามว่า "สระแก้วสระขวัญ" ต่อมาได้นำน้ำจากสระทั้ง 2 แห่งนี้ไปใช้ในการประกอบ
พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาด้วย จึงถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์แต่เดิมสระแก้วมีฐานะเป็นตำบล เป็นที่ตั้งของด่านตรวจคนและสินค้าเข้าออก มีข้าราชการตำแหน่งนายกอง
ทำหน้าที่เป็นนายด่าน จนถึงปี พ.ศ. 2452 ทางราชการจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็น "อำเภอสระแก้ว" อยู่ภายใต้การปกครองของจังหวัดปราจีนบุรี และต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดสระแก้วขึ้น เป็นผลให้สระแก้วกลายเป็นจังหวัดที่ 74 ของประเทศไทยนับแต่นั้นมาสระแก้วแบ่งการปกครองออกเป็น
8 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองสระแก้ว อำเภอคลองหาด อำเภอตาพระยา อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอวัฒนานคร อำเภออรัญประเทศ อำเภอเขาฉกรรจ์ อำเภอโคกสูง และกิ่งอำเภอวังสมบูรณ์ |