พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง
          จังหวัดนครพนมตั้งอยู่ในเขตภาคอีสานตอนบน เป็นเมืองชายแดนที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์สวยงาม มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีความหลาก
  หลายของวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน และมีพระธาตุอื่นๆ อีกหลายแห่งจึง
  นับว่านครพนมนี้เป็นเมืองแห่งพระธาตุโดยแท้และด้วยความที่เคยเป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อน ประกอบกับตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อันเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม
  แห่งสำคัญจากหลายชนชาติ จังหวัดนครพนมจึงมีวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจอยู่มาก และยิ่งปัจจุบันนี้ นครพนมเป็นจุดผ่านแดนไปยัง
  ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง อีกทั้งยังมีความเจริญในหลายๆ ด้าน มีการคมนาคมสะดวกและมีสนามบิน ซึ่งช่วยส่งเสริม
  ศักยภาพทางการท่องเที่ยวของจังหวัดได้เป็นอย่างดี จึงถือว่านครพนมเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย

          จังหวัดนครพนมมีเนื้อที่ประมาณ 5,513 ตารางกิโลเมตร หรือ 3,445,625 ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 39 ของประเทศ สภาพพื้นที่ส่วนมาก
  เป็นที่ราบลุ่ม มีที่ราบสูงและภูเขาอยู่บ้าง พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดมีแม่น้ำโขงไหลผ่าน และมีแม่น้ำสายสั้นๆ เป็นสาขาย่อยแยกจากแม่น้ำโขงหลายสาย
  จึงนับว่านครพนมเป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์มากบริเวณที่เป็นเมืองนครพนมในปัจจุบันนี้ เดิมเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรศรีโคตบูรในอดีต โดยตัวเมืองตั้ง
  อยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำโขง หรือฝั่งประเทศ สปป. ลาว บริเวณตรงข้ามกับพระธาตุพนมในปัจจุบัน เล่ากันว่าเมื่อสิ้นพญานันทเสน ผู้ครองเมืองศรีโคตบูร
  ชาวเมืองก็ได้อพยพโยกย้ายมาสร้างเมืองใหม่อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวในขณะนั้นเป็นป่าไม้รวก จึงตั้งชื่อเมืองใหม่นี้ว่า “มรุกขนคร” หมายถึงเมืองที่
  อยู่ในดงไม้รวกในราวปี พ.ศ. 500 มรุกขนครมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีเมืองในปกครองมากมาย และมีการบูรณะพระธาตุพนมขึ้นเป็นครั้งแรกด้วย โดยการก่อพระลาน
  อูบมุง ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 แล้วสร้างกำแแพงล้อมรอบ มีงานสมโภชใหญ่โต ต่อมาอาณาจักรศรีโคตบูรล่มสลายกลายเป็นเมืองร้าง จนกระทั่งถึง พ.ศ. 1800 เจ้าเมือง
  ศรีโคตบูรได้กลับไปสร้างเมืองมรุกขนครขึ้นใหม่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และต่อมาเปลี่ยนชื่อกลับเป็น “เมืองศรีโคตบูร” ตามเดิมต่อมาใน พ.ศ. 2280 พระธรรมราชา   เจ้าเมืองศรีโคตบูรองค์สุดท้ายได้ย้ายเมืองกลับมาตั้ง ณ ฝั่งขวาของแม่น้ำโขงอีกครั้ง แล้วให้ชื่อว่า “เมืองนคร” หลังจากนั้นมียังมีการโยกย้ายเมืองอีกหลายครั้ง จนถึงปี   พ.ศ. 2333 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ผู้ครองเมืองนครถึงแก่พิราลัย และเมืองนครได้ขอขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร   พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองให้ใหม่ว่า “นครพนม” หมายถึง “เมืองแห่งภูเขา” ตามสภาพพื้นที่ของเมืองที่มี
  เทือกเขาอยู่ใกล้เคียงมากมาย และจากการที่เมืองนี้มี “พระธาตุพนม” เป็นปูชนียสถานที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านานนั่นเองจังหวัดนครพนมแบ่งเขตการปกครองออกเป็น
  11 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครพนม อำเภอธาตุพนม อำเภอนาแก อำเภอท่าอุเทน อำเภอเรณูนคร อำเภอบ้านแพง อำเภอปลาปาก อำเภอศรีสงคราม   อำเภอนาหว้า อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอนาทม และกิ่งอำเภอวังยาง

     
โปรโมทเว็บไซต์
 
อัพเดท!!! ที่เที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท ทั่วไทย
เชียงราย
เชียงใหม่
ลำปาง
ลำพูน
แม่ฮ่องสอน
นครสวรรค์
น่าน 
พะเยา
เพชรบูรณ์
พิจิตร
พิษณุโลก
แพร่
สุโขทัย
อุทัยธานี
อุตรดิตถ์
อำนาจเจริญ
บุรีรัมย์
ชัยภูมิ
กาฬสินธุ์
ขอนแก่น
เลย
มหาสารคาม
มุกดาหาร
นครราชสีมา
นครพนม
หนองบัวลำภู
หนองคาย
ร้อยเอ็ด
สกลนคร
ศรีสะเกษ
สุรินทร์
อุบลราชธานี
อุดรธานี
ยโสธร
ฉะเชิงเทรา
ปราจีนบุรี
สระแก้ว
ชลบุรี
ระยอง
จันทบุรี
ตราด
กรุงเทพ ฯ
นนทบุรี
ปทุมธานี
นครนายก
พระนครศรีอยุธยา
ลพบุรี
สระบุรี
สิงห์บุรี
อ่างทอง
ชัยนาท
สมุทรปราการ
สมุทรสาคร
สมุทรสงคราม
นครปฐม
สุพรรณบุรี
ตาก
กาญจนบุรี
ราชบุรี
เพชรบุรี
ประจวบคีรีขันธ์ 
ชุมพร
ระนอง
สุราษฎร์ธานี
พังงา
ภูเก็ต
กระบี่
นครศรีธรรมราช
ตรัง
พัทลุง
สงขลา
สตูล
ปัตตานี
ยะลา
นราธิวาส